April 27, 2024

เป็นภูมิแพ้อากาศอาการเป็นแบบไหน ใช้ยาแก้คัดจมูกได้หรือไม่?

ในช่วงที่อากาศแปรปรวนอย่างหนัก หรือมีฝุ่นละอองต่าง ๆ มากเกินความจำเป็น ถือเป็นหายนะของผู้ที่โรคภูมิแพ้อากาศเลยก็ว่าได้ แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะ ? ในเมื่อเราควบคุมสภาพอากาศไม่ได้ ดังนั้นหลายคนจึงมองหาตัวช่วยอย่างยาแก้คัดจมูก มาเป็นตัวช่วยที่ทำให้อาการทุเลาลง แต่มันช่วยได้จริงมากน้อยแค่ไหน? ช่วยได้จริงหรือเปล่า? วันนี้เราจะพาคุณไปไขข้อสงสัยพร้อม ๆ กัน แต่ก่อนอื่นเราจะต้องไปทำความรู้จักกับโรคนี้ให้ดีเสียก่อน

โรคภูมิแพ้อากาศคืออะไร? ใช้ยาแก้คัดจมูกแล้วหายจริงไหม?

โรคภูมิแพ้อากาศหรือจมูกอักเสบภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจาก “เยื่อบุจมูกมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติ” การจะรักษาให้หายขาดเป็นเรื่องยาก แต่สามารถใช้ยาแก้คัดจมูกเพื่อให้อาการทุเลาลงได้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุเสียมากกว่า ซึ่งการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค ว่าคุณมีอาการอะไรที่เด่นชัดมากกว่ากัน หลังจากนั้นก็ให้เลือกใช้ยาที่ตรงกับอาการ โดยชนิดของโรคภูมิแพ้อากาศก็มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ

  1. Intermittent คือ ผู้ป่วยที่มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ซึ่งจะมีอาการน้อยกว่า 4 วัน ต่อสัปดาห์ หากมีอาการคัดจมูกก็สามารถใช้ยาแก้คัดจมูกได้
  2. Persistent คือ ผู้ป่วยที่มีอาการคงที่ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือมีอาการมากกว่า 4 วัน ต่อสัปดาห์ ยาแก้คัดจมูกอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มาก

ความรุนแรงของโรคภูมิแพ้อากาศ

สำหรับความรุนแรงของโรคภูมิแพ้อากาศจะมีอยู่ 2 ระดับ คือ ระดับน้อย (mild) และระดับปานกลางถึงมาก (moderate to severe) โดยจะมียาบรรเทาอาการที่แตกต่างกันออกไป และอย่างที่บอกไปว่าจะยึดตามความรุนแรงของอาการเป็นสำคัญ แล้วจะมียาแก้คัดจมูกด้วยหรือไม่? ไปดูกันเลย

  1. ยาต้านฮิสทามีน (antihistamines) จะใช้ได้ผลดีกับอาการที่มีสาเหตุมาจากฮิสทามีน เช่น จาม, น้ำมูกไหล, คัน, หรือเคืองตา แต่สำหรับอาการคัดจมูกจะเห็นผลค่อนข้างน้อย หรือในบางครั้งอาจจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก
  2. ยาหดหลอดเลือด (decongestant) หรือยาแก้คัดจมูก เพราะช่วยบรรเทาอาหารคัดจมูกเป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ชนิด คือ กิน พ่น และหยอด โดยจะมีการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
  • ชนิดพ่นและชนิดหยอดจมูก จะออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า ประมาณ 5 – 10 นาที ก็ออกฤทธิ์แล้ว แต่ข้อเสียก็คือหากใช้ติดต่อกันนานกว่า 5 วัน อาจจะทำให้เกิดอาการคัดจมูกหรือแน่นจมูกมากกว่าเดิม และยังอาจจะทำให้จมูกเกิดการระคายเคืองด้วย
  • ชนิดกิน จะออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที หากใช้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง จะไม่กลับมาคัดหรือแน่นจมูกอีก แต่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา เช่น มือสั่น, นอนไม่หลับ, ปวดหัว, เวียนหัว และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ดังนั้นควรใช้ยาหดหลอดเลือดอย่างระมัดระวัง สำหรับผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงยาหดหลอดเลือดชนิดกิน ก็จะมีหลากหลายโรคมากเลยทีเดียว อาทิ ความดันโลหิตสูง, ไทรอยด์เป็นพิษ, ต่อมหมวกไต, ต้อหิน, ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิต, ผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี และมากกว่า 60 ปี
  1. ยาสเตรียรอยด์ (corticosteroids) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
  • ชนิดพ่นจมูก ถือเป็นชนิดรักษาโรคภูมิแพ้อากาศที่มีประสิทธิภาพสูง มีส่วนช่วยให้อาการคันจมูก, จาม, น้ำมูกไหล และคัดแน่นจมูกทุเลาลง สำหรับผู้ที่คัดจมูกมากเป็นพิเศษ หรือมีอาการคัดจมูกเด่นกว่าอาการอื่น ๆ แนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้เป็นลำดับแรก
  • ชนิดกิน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการคัดจมูกมาก และชนิดพ่นบรรเทาอาการได้ไม่ดี หรือมีภาวะจมูกไม่ได้กลิ่น มีริดสีดวงจมูกเล็ก ๆ และมีเยื่อบุจมูกอักเสบจากการใช้ยาหดหลอดเลือด

โรคภูมิแพ้อากาศถือเป็นโรคที่ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจเป็นสำคัญ หากคุณรู้ตัวว่าตนเองหรือคนรอบข้างเป็นโรคนี้อยู่ การพกยาแก้คัดจมูกติดตัวเสมอ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ดีอยู่ไม่น้อย แต่ก็ควรจะเลือกประเภทและชนิดของยาให้เหมาะสมด้วย เพื่อเป็นการรักษาอาการให้ทุเลาลงอย่างถูกวิธี แต่ถ้าหากอาการค่อนข้างรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ควรไปพบแพทย์ Rattinan Hospital ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า